Gkeng Investment

จากที่เคยได้กล่าวมาแล้ว ว่าองค์ประกอบสมการบัญชีคือ สินทรัพย์ = หนี้สิน+ส่วนที่เป็นของเจ้าของ คราวนี้เรามาดู ส่วนประกอบตัวแรก คือ สินทรัพย์ สินทรัพย์ คือ ส่วนที่บริษัทใช้เพื่อให้ธุรกิจดำเนินงานเพื่อแสวงหากำไร โดยสินทรัพย์แบ่งเป็นประเภทหลักเป็น 3 อย่าง สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) สินทรัพย์อื่น (Other Assets) ที่ผมสนใจเวลาอ่านงบการเงิน ส่วนใหญ่นั้นมีแค่ 2 คือ สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets) และ สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets) ถ้าดูภาพรวมในหมวดสินทรัพย์ที่ทำให้น่าสนใจการดึดดูด ก็ดูเทียบปีต่อปี โดยปกติในตลาดหลักทรัพย์มีข้อมูลงบการเงินแบบภาพรวมให้ดูย้อนหลังอยู่แล้ว ประมาณ 5 ปี โดยดูว่า สินทรัพย์ปีทีแล้ว โตขึ้น หรือ ลดลงจากปีนี้กี่ % แล้วเทียบกับปีก่อนหน้า นั้นเป็นอย่างไร แต่ควรเทียบกับดูเทียบกับว่า สินทรัพย์นั้น โตมาจากส่วนไหน หนี้สินหรือทุน อย่าลืมว่าสมการ สินทรัพย์ = หนี้สิน+ส่วนที่เป็นของเจ้าของ เมืือสินทรัพย์เพิ่ม ก็ ต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่งเพิ่มตามไปด้วย บางทีเราอาจได้เห็นสินทรัพย์ที่ลดลงอย่างมาก แต่อย่าเพิ่งตกใจ ให้ไ

งบดุลเป็น ส่วนหนึ่งของงบการเงินของบริษัทต่างๆ ที่ต้องจัดทำขึ้นกัน อย่างในตลาดหลักทรัพย์เราสามารถจากการประกาศของบริษัทหลักทรัพย์ได้ว่า งบการเงินแต่ละไตรมาส เช่นเดียวกัน กับ งบดุุล ซึ่งทำให้เราทราบทุก 3 เดือนเช่นเดียวกัน ส่วนตัวงบดุลนั้น จะแสดงความสัมพันธ์ของ 3 ตัวหลัก คือ สินทรัพย์ , หนี้สิน , ทุน สิ่งที่เป็นพื้นฐานของทางบัญชี คือ สมการบัญชี ก็คือสิ่งที่อยูู่ใน งบดุลนี้ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน สองข้างต้องเท่ากันเสมอ และ ปัจจัย 3 ตัวนี้ เป็นส่วนประกอบของงบดุลนั้นเอง ซึ่งเรียงลำดับตามนี้ สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน ตัวงบดุลนั้นจะทำให้เราทราบว่า สินทรัพย์ หนี้สิน ทุน นั้นมีจำนวนเท่าไร และสามารถทราบได้ว่ามันเพิ่มขึ้นหรือลดลงในแต่ละไตรมาส หรือ รายปี สาระสำคัญของ งบดุล ที่สุดคือ การบอกสถานะบริษัทว่าเป็นอย่างไร โดยรายละเอียดของ สินทรัพย์ , หนี้สิน , ทุน ในงบดุล จะกล่าวในบทความต่อๆ ไป