บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤษภาคม, 2012

บันทึกการลงทุน 29/5/2555 ศาสตร์แห่งการพยากรณ์

การพยากรณ์ สำหรับผมคือการให้ทิศทางในอนาคตว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นควรเป็นอย่างไร ซึ่งคนโดยทั่วไปมักจะคิดถึง หมอดู ผู้มีความสามารถในการดูดวงด้วย รูปแบบต่างๆ เช่น ลายมือ โครงหน้า วันเกิด เวลาตกฝาก ดูดาว แต่หลายๆ ครั้ง เราก็ลืมไปว่าการพยากรณ์ มักออกมาจาก ผู้เชียวชาญด้านต่างๆ เช่น นักรัฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ หรือบางครั้ง ก็มีนักข่าว ก็มี ตัวอย่างเช่น ตอนน้ำท่วมปี 54 ผมได้รับฟังการพยากรณ์จากนักวิชาการ โดยเฉพาะอุทกศาสตร์ ที่พยากรณ์ แต่ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ถ้าตามสมมุติฐานและข้อมูลที่ได้รับ สำหรับผม นักวิชาการนั้น ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์เพื่อพยากรณ์ มองแล้วก็ไม่ต่างจากหมอดู แต่เครื่องมือเค้าคือ วิชาการต่างๆ ที่ได้ศึกษามา นั้นเอง ส่วนใหญ่กระบวนการนั้นคือ มีข้อมูลอะไร และจะมีผลอะไรตามมา ด้วยสาเหตุเพราะอะไร ทุกศาสตร์ที่ใช้คำนวณ และ พยากรณ์ ก็มีแค่นี้ละครับ เศรษฐกิจ การเมือง ธรรมชาติ ดวง ทุกอย่างเหมือนกันหมดครับ ส่วนใครจะแม่น คือคนที่พยากรณ์ผลได้ใกล้เคียงมากที่สุด กลับที่เรื่องการลงทุนในหุ้น หรือ การพยากรณ์หุ้น ใบ้หุ้น ให้ทีเด็ด จะอะไรก็ตามที่เข้าเรียกกัน สำหรับการพยา

บันทึกการลงทุน 16/5/2555 ตอน วันที่หุ้นตก และ โลกกลับไปอยู่ที่รัฐบาลกรีซ

ไม่มีกี่วันที่ผ่านมา ผมเขียนเรื่อง P/E ที่สูงไปสำหรับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ  P/E 16 เท่า http://gkenginvest.blogspot.com/2012/05/652555-pe-set-pe-16.html แต่ผ่านไปสัปดาห์หนึ่ง ตลาดหุ้นก็ปรับฐานลงมาที่  P/E 15 นับว่าลงมารวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่ใช่เพราะผมเห็นอนาคตหรือแต่อย่างไร แต่เพราะข่าวการเลือกตั้งทางยุโรปที่ทำให้นักลงทุนต้องตกใจ ขายเพื่อนำกำไร เปลี่ียนเป็นเงินสดไว้ก่อน ตั้งแต่ปี 2008 หรือ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ มา ประเทศที่รับผลกระทบมากสุดคือ ประเทศกรีซเนี่ยละครับ หลายครั้งต้องมีข่าว กับ รัฐบาลกรีซที่ต้องรับการช่วยเหลือ จากต่างประเทศ ตามมาด้วยการบีบบังคับเพื่อขอความช่วยเหลือ เช่น ตัดงบประมาณ เป็นต้น เงินที่ได้มา ต้องนำไปใช้ทำอะไร ก็ตอบลำบากครับ เพราะปรกติ หนี้ที่กู้มา ไม่ว่าภาครัฐ หรือ ภาคเอกชน ต้องนำไปลงทุน ถ้ากู้มาเพื่อยังชีพ แปลว่า มีปัญหาสุดขีดละครับ ข่าว กรีซ ก่อนหน้ามี ขายพันธบัตรด้วยอัตราผลตอบแทนสูงมาก เกิน 20 % (ถ้าไม่กังวลเรื่องเบียวหนี้ ผมอยากบอกว่า เป็นสุดยอดการลงทุนเลย) การทำ Hair Cut ขอลดหนี้ กับเจ้าหนี้ต่างชาติ ล่าสุดก็ กรีซ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐ

บันทึกการลงทุน 10/5/2555 ตอน วันที่งบการเงินออกเยอะ

ผลของการดำเนินงานในแต่ละไตรมาส ของบริษัท ต้องทำการประกาศงบช่วง 45 วัน หลังจากไตรมาสได้ปิดลง ซึ่งปกติ พวกการเงินจะเป็น กลุ่มอุตสาหกรรมแรกที่จะออกงบมาก่อน และค่อยๆ ทยอยออกมา กำไรในการทำงานของบริษัทเป็นเครื่องมือสำคัญในการบอกว่าการดำเนินงาน เป็นอย่างไร มีประสิทธิแค่ไหน ซึ่งส่วนใหญ่จะไว้เทียบกับปีก่อนหน้าหรือไตรมาสก่อนหน้า สิ่งที่ผมสนใจมากสุดคือ -การได้มาและใช้เงินของบริษัทนั้น -อัตรากำไรที่มาจากการดำเนินงาน บางครั้งบริษัทได้กำไรมาจากการขายเงินลงทุนหรือขายสินทรัพย์ออกไป ซึ่งทำให้งบนั้นดูดีแต่มันก็คงดีได้ปีนั้นปีเดียว ในทางตรงกันข้ามคือถ้าการขายดีขึ้นเลยๆผมว่าเป้นสัญญาณที่ดีในการเติบโตมากกว่าครับ รอบนี้ผมพลาดการแกะงบไปเหมือนกัน ไม่ทันได้สังเกตุกำไรพวกนี้ ทำเอาการวางแผนเราพลาดไปเยอะเหมือนกัน ก๋ได้งบการเงินรอบนี้เป้นอาจารย์สั่งสอนขั้นดีเลย สุดท้ายในวันนี้งบออกเยอะมาก ผมคงต้องเลือกดูบริษัทเล่นๆเพื่อเป้นการฝึกฝืมือด้วย ก็ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนครับ

บันทึกการลงทุน 6/5/2555 ตอน ค่า P/E โดยรวมในตอนนี้ กับ SET P/E 16 เท่า

รูปภาพ
ผ่านพ้น วันเสาร์ที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 มาแล้ว ซึ่งเป็นวันที่คนแต่งงานเยอะมากครับ อย่างน้อย ผมก็มีทับไป 3 งาน ซึ่งขอให้ชีวิตคู่แต่ละคนเริ่มด้วยดี และอย่าลืมวางแผนการเงินให้กับชีวิตคู่ด้วย ส่วนเรื่องราวที่ผมต้องการผมวันนี้ คือภาพรวมของตลาดหลักทรัพย์ที่เปลี่ยนไป จาก 2-3 ปี่ที่แล้ว จากอัตรา Price earning ratio ที่ผมได้พูด ความหมายไว้ที่บทความก่อนหน้า http://gkenginvest.blogspot.com/2012/05/pe-ratio.html http://gkenginvest.blogspot.com/2010/06/pe-ratio.html ภาพรวมตลาด P/E ของตลาด ตอนนี้ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 50 ตัวแรกของตลาด มีP/E < 10 เพียง 5 ตัวเท่านั้น (ไม่นับตัวขาดทุนนะครับ) เป็นซึ่งเป็นหมวดพลังงาน 4 ตัว กลุ่มการเงิน 1 ตัว (อยากรู้ตัวไหนลองหาเองนะครับ ^^) http://marketdata.set.or.th/mkt/marketsummary.do?language=th&country=TH  ของวันที่ 4 สำหรับผม SET มี P/E 16 ถือว่าสูงมากในรอบหลายๆปี และผมก็ไม่ชิน กับมันเลย ซึ่งหมายความว่า ตลาดเราเร่ิม มีคนให้ความสนใจสูงมากขึ้น ทำให้ราคากับการเติบโต เริ่มสูงมาก ส่วนจะมองวา่แพงหรือไม่ อันนี้แล้วแต่คนคิดครับ ส่วนตัวผม

P/E ratio ในความเห็นส่วนตัวของผม

การลงทุนในทรัพย์หลักประเภทหุ้น มีอัตราส่วนตัวเลขตัวหนึ่ง ที่ชื่อ Price earning Ratio หรือ P/E นั้นเอง ที่มาของ P/E นั้น คือการนำ ราคาหุ้นมาหารอัตราเติบโต ซึ่งได้ค่า P/E นั้นเอง ซึ่งความหมาย P/E จะบอกเราได้ว่า การที่เราซื้้อหุ้นที่ราคาตรงนี้ ถ้าอัตรากำไรคงที่ ไปกี่ปี จะคืนทุนเท่าไร เช่น ถ้าคุณ ซื้อหุ้น ราคา 5 กำไรต่อปี ณ ปีนั้น คือ 70 สตางค์ คือ 5/.7 ผลก็คือ 7.14 หรือ คุณถือหุ้นตัวไป 7.14 ปี กำไรที่บริษัทนี้ทำได้จะเท่ากับ ราคาหุ้นที่คุณซ์้อมา ถือว่าคือทุน แต่มันเป็นค่ากำไรนะครับ ถ้ามองว่าส่วนของผู้ถือหุ้น ก็อยู่ในบริษัทของเรา ไม่ได้เงินคืนมา 5 บาทหรอกครับ เงินที่ได้คืน คือ เงินปันผล ที่บริษัทจ่ายให้ผู้ถือหุ้น กรณีนี้ ถ้าอยากได้คือ 5 บาทจริงๆ คือ ปันผลจากกำไร 100% ถ้าไม่จ่ายเลย ก็คือ บริษัทนำกำไร ไปทำอย่างอื่นต่อ ซึ่งเราก็ได้แต่คาดหวังว่าจะนำเงินไปทำไรให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทมากกว่านี้ ซึ่งกำไรนั้นจะส่งออกมาเป็นปันผลเท่าไร ก็ขึ้น นโยบายของบริษัทครับ ส่วนความน่าเชื่อถือของ P/E P คือ ราคา ผมคิดว่า ราคาเป็นเรื่องของตลาด ผู้ซื้อ และ ผู้ขาย เป็นเรื่องความโลภ ความกลัว ในระ