การวิเคราะห์จากงบการเงินของบริษัท :สินทรัพย์หมุนเวียน

สินทรัพย์หมุนเวียน
โดยคำนิยามในวิชาบัญชีให้ความหมายว่า สินทรัพย์หมุนเวียนคือ สินทรัพย์ที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ภายในระยะเวลา 1 ปี หรือรอบทำการธุรกิจ
ตัวอย่างเช่น เงินสด , เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด, เงินลงทุนระยะสั้น, ลูกหนี้การค้า, ตั๋วเงินรับการค้าสุทธิ, เงินให้กู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดภายในหนึ่งปี, สินค้าคงเหลือ, สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น, ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า, ดอกเบี้ยค้างรับ
ในทางปฎิบัติเงินสดนั้นถือเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมากที่สุด ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในการทำธุรกิจ เงินสดจะเป็นตัวสำคัญในการให้ธุรกิจ เราสามารถนำไปจ่ายเจ้าหนี้ได้ทันที หรือนำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ได้ ถ้ามีเงินสดพอที่จะชำระหนี้ได้ รับรองบริษัทนั้นไม่มีทางล้มแน่นอน
เงินลงทุนระยะสั้น เมื่อทางบริษัทต้องการนำเงินไปลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากการเก็บเงินไว้เฉยๆ อาจทำให้เงินสดลดมูลค่าได้ตามอัตราเงินเฟ้อ ส่วนเมื่อเงินเหลือ อาจนำไปซื้อพวกหลักทรัพย์ หุ้น ในตลาด ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ ภายใน T+3 หรือ 3วันนั้นเอง หรือตราสารหนี้ระยะสั้นอื่นๆ
ลูกหนี้การค้า เกิดจากการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าด้วยเครดิตหรือเงินเชื่อนั้นเอง โดยจะบันทึกเป็นลูกหนี้ โดยส่วนใหญ่จะให้เงินเชื่อเป็นระยะเวลา 15 วัน 30 วัน 45 วัน 60 วัน ว่ากันไปตามที่ตกลงกันต่อการทำสัญญาตอนค้าขาย การบริหารลูกหนี้การค้าเป็นเรื่องของ Account Receivable แต่ถ้าลูกหนี้ชักดาบหรือไม่เบี้ยวหนี้บ่อยๆ ก็ถือเป็นหนี้สูญ ซึ่งถือเป็นเรื่องไม่ดี ทำให้รายได้ และเงินสด สาบสูญไป ซึ่งเห็นได้ว่า มีสินทรัพย์ส่วนนี้เยอะ ก็ถือเป็นความเสี่ยงอยู่ดี ถ้ามีโอกาสคงได้เขียนถึงเรื่องนี้อีกครั้ง (ตอนทำ Consultant เรื่องนี้เป็นจุดวิกฤตอีกเรื่องหนึ่ง ที่บริษัทให้ความสนใจมาก)
สินค้าคงเหลือ เมื่อซื้อสินค้ามา และนำไปขายถึงได้เงินสดเข้ามาในกิจการนั้นๆ แต่ถ้าขายไม่หมดก็เก็บไว้ใน คลังสินค้า และมองเป็นสินทรัพย์หมุนเวียน ซึ่งสินค้าคงเหลือนั้น บางบริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสินค้าคงเหลือ หรือ ดูแลคลังสินค้านั้นเอง ซึ่งถ้ามันเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ยาก ก็มีความน่าเป็นห่วงเหมือนกันครับ (อันนี้ก็อีกเรื่องที่ทำ Consultant เรื่องนี้เป็นจุดวิกฤตอีกเรื่องหนึ่ง ที่บริษัทพวกซื้อมาขายไปให้ความสนใจมาก)
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น ก็เป็นพวกค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า, ดอกเบี้ยค้างรับ, เงินจ่ายล่วงหน้า ซึ่งทางบัญชีมองเป็นสินทรัพย์เหมือนกัน
ซึ่งอย่างที่บอกประเภทสินทรัพย์ระยะสั้นมา เวลาผมดู ส่วนใหญ่ พุ่งเป้าไปที่เงินสดก่อน มีเงินสดไว้อุ่นใจสุด จากนั้นค่อยๆ เลื่อนลงมาดูแต่ละอย่าง
ถ้าอะไรที่ตัวเลขไปกองกันมากเกินไป ต้องมาดูต่อละ ว่าทำให้กิจการมีปัญหาหรือไม่ เช่น สินค้าคงเหลือ มีมูลค่ามาก และย้อนกลับไปดูปีก่อนหน้า ว่ามันเพิ่มขึ้นหรือลดลง ถ้าเพิ่มขึ้น แปลว่าขายของได้น้อย อาจมีต้นทุนดูแลสินค้าคงเหลือเพิ่มอีก ยิ่งเป็นบริษัทแนวขายสินค้า IT หรือ ซื้อมาขายไป แปลว่าการจัดซื้อมีปัญหาแล้วเป็นต้น
หรือลูกหนี้การค้า สูงเกินไปกว่าที่ควรจะเป็น แปลว่าบริษัทมีการขายเงินเชื่อเยอะ คราวนี้อาจต้องมาดูที่การบริหารเครดิตหรือลูกค้าเงินเชื่อว่ามีอายุการให้กี่วัน หรือว่าไม่สามารถเรียกเก็บหนี้ได้ ซึ่งก็เป็นปัญหาของบริษัทนั้นเอง
ที่กล่าวมาเป็น การทำให้เราได้รู้จักว่า สินทรัพย์หมุนเวียนมีอะไรบ้าง และมีความหมายอย่างไร ซึ่งพอให้เป็นแนวทางให้เข้าใจบริษัทว่ามีสถานะอย่างไร ซึ่งผมก็ใช้ส่วนนี้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วย
โดยบทความต่อไปจะพูดถึงสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนต่อนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin