บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2015

วิธ๊ดู SET50 SET100

รูปภาพ
SET50 SET100 คือการจัดกลุ่มของหลักทรัพย์ตราสารทุนที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์ ว่าหลักทรัพย์ไหนควรมาอยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ของตลาด เข้ามาแล้วมีข้อดีอะไร? บอกได้ว่าตัวเองติด Top50 Top100 ของตลาดหลักทรัพย์ไทย เพราะเงื่อนไขการเป็น หุ้น SET50 SET100 ก็เน้นที่ Market cap และ ปริมาณและมูลค่าการซื้อขาย กองทุนหลายๆกองทั้งไทยและเทศ ก็จะมีการกำหนดไว้เป็นเงื่อนไขเบื้องต้นว่า ให้ซื้อหุ้นขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ บางทีซื้อหุ้นเล็กๆ จะซื้อได้ไม่เยอะ วิธีการคัดเลือก? จะทำทุกๆ 6 เดือนโดนมีขึ้นตอนที่หน้า 4 คำอธิบาย SET50 SET100 ของตลาดหลักทรัพย์ ตาม link นะครับ https://www.set.or.th/th/products/index/files/2013-01-SET50-100-IndexRule-TH.pdf สรุปดังนี้ 1. เข้าตลาดเกิน 6 เดือน 2. Market cap ในรอบ 3เดือน ติด Top 200 3. Free-Float มากกว่า 20% 4. มี Value มากกว่า 50% ของ Value เฉลี่ยในเดือนนั้นๆ และต้องต่อเนื่อง 9 เดือนจากช่วงเวลา 12 เดือน 5. ถ้ามีหุ้นเกิน 105 ตัว ค่อยๆ ลดเงือนไข (อ่านใน Link) 6. หุ้นน่าจะ  อยู่ดีมีสุข ไม่ออกจากตลาด ไม่ติด SP หรือ พักการซื้อขาย นานๆ จากนั้นแบ่งหุ้นลงดัชนีตามจำนว

บันทึกการลงทุน 14/09/2558 วันที่ อันดับ1เปลี่ยนมือ

รูปภาพ
วันนี้มีเรื่องเล็กๆ คือ เป็นวันอีกวัน ที่บริษัทอย่าง PTT ที่เป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติก็ว่าได้ ได้เสีย ตำแหน่ง Market cap สูงสุดรอบ 10 ปี นั้น ได้เสียตำแหน่งให้กับบริษัทให้บริการบริษัทมือถือ อย่าง ADVANCE ไปแล้ว ด้วยน้ำมันราคาร่วงและยังคงร่วงต่อ ทำให้รายได้ต้องลดลง และ ส่งผลต่อการขาดทุน Stock หลายๆ รอบ นั้นคือผลที่ทำให้ราคานั้น เป็นขาลงมาตลอดทาง เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เห็นว่า บริษัทที่ใช้สินค้าเป็น โภคภัณฑ์ นั้น ราคาขึ้นลง รุนแรงนะครับ แต่สำหรับผม สิ่งที่เห็นคือ ผมไม่คิดว่า น้ำมันจะต่ำกว่า 80$ ได้ แต่ก็นั้นละครับ บางอย่างมันเกิดมาสักพักแล้ว เราไมได้มองเห็น จนกระทั่งมันสะท้อนให้เห็นที่่ราคา น่าเสียดายนะครับ ผมไม่สามารถหาประโยชน์เชิงการลงทุนได้จากการร่วงของราคาน้ำมันครั้งนี้ แต่สิ่งที่จะเกิดกับ ตลาดหลักทรัพย์เรา ต้องยอมรับอย่างว่า ภาษี ที่จ่ายให้ประเทศ ต้องลดลงแน่นอน และของ P/E ตลาดนั้น ต้องสูงขึ้น เพราะหลายปีแล้วที่ PTT นั้น ทำให้ ตลาดเรามีตัว E ที่ดี ต่อไปคงต้อง พวก Bank มือถือ ปูน และ ค้าปลีกทำงานหนักขึ้น เพื่อให้ตลาดเรามีภาพรวมดูแล้ว น่าลงทุนจากคนรอบนอกนะครับ จบด้วย เดือนส

ความรับผิดชอบต่อเงินตรา และ เงินเป็นพิษ

เห็นเป็นบทความที่ 200 ที่เขียนไว้ใน Blog ไม่นับที่ไม่ได้ เผยแพร่ด้วย สำหรับผม เป็นเรื่องที่แอบตลก เพราะตอนเริ่มต้นเขียนบทความที่ Blog นี้ เรียกว่ากะทิ้ง ความรู้ไว้ใน internet เฉยๆ เพราะตอนนั้นไม่มีอะไรเหลือในชีวิตสักอย่างเลย ตั้งแต่ งาน เงิน แฟน รวมทั้งชีวิต แต่ชีวิตก็เรียกว่าได้พบจุดเปลี่ยน หลังจากเริ่มทำงานอีกครั้ง เริ่มมีงาน มีเงินเก็บ เคยฝันว่าจะมีสัก 1 ล้าน ก็ทำได้ ด้วยความรู้ของการลงทุน ชีวิตช่วงปี 2557-2558 เรียกว่าเป็น แบบทดสอบชีวิตและการบริหารเงินของผมเลยทีเดียว ในยุคที่ผมเขียน Blog นี้ ครั้งแรกๆ เรียกว่าผมไม่มีงาน ไม่มีเงินเลย แต่วันนี้กลายเป็น เสาหลักของครอบครัว และ มีเงินทองไว้ช่วยเหลือคนรอบข้างได้บ้าง และ หาเสพความสุขจากเงินทองที่เราได้รับจากรายได้ และเอาเงินปันผลที่มี ไปใช้ชำระหนี้สินของก้อนใหญ่ให้ทางบ้าน แม้จะไม่พออยู่ดี ความรับผิดชอบต่อเงินตราที่ผมหาได้ เรียกว่าแทบจะหมดไปกับการ ดูแลหนี้สิน และ การลงทุน นั้นเอง ซึ่งเป็นความรับผิดต่อคนในครอบครัวทางหนึ่ง อีกด้านนึง ผมเคยบอกไว้ว่า เงินกินไม่ได้ เงินซื้อความสุข ไม่ได้ เงินซื้อความฉลาดไม่ได้ แต่เงินซื้ออาหารมื้อหนึ่งดี