กิจกรรมลงทุนการเลือกหุ้นของผม2016

บทความนี้ผมจะมากล่าวถึงกิจกรรมลงทุนในหลักทรัพย์ประเภท หุ้นสามัญ ว่ามีการอย่างไรจากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเอง  ในปี 2016 หรือ 2559 ซึ่งต่างกับ 2008 แน่นอนครับ


โดยปกติทุกคนที่ลงทุนในหลักทรัพย์ไม่ว่าจะเล่นหุ้น มักจะมีวิธีการเลือกหุ้นแตกต่างกันไป เพราะการเล่นหุ้นหรือลงทุน นั้น กิจกรรมที่สำคัญที่สุด เพื่อจะก่อให้เกิดผลตอบแทน ไม่ว่าจะเป็น


1 ผลกำไรหรือขาดทุนจากส่วนต่างราคา
2 เงินปันผล หรือ
3.หลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น


เริ่มต้นจากการซื้อและถือ ผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนนั้น อาจจะเป็นรูปแบบดังกล่าวที่กล่าวขึ้นมา


ส่วนใหญ่ชีวิตการลงทุน ไม่มีใครที่ได้กำไรตลอดทุกครั้งในการลงทุน บางคนเจอการขาดทุนจากส่วนต่างราคามากกว่าด้วยซ้ำ ถึงเวลาจริงผลที่การรับรู้ ผลการตอบแทนเกิดขึ้นเมื่อขายทิ้งแล้ว เมื่อนั้นถึงเรียกว่า การขาดทุนที่เป็นรูปเงินสดจริงๆได้เกิดขึ้นแล้ว


เมื่อทุกคนช่วยว่าการซื้อถือและขาย เป็นกิจกรรมหลักของการลงทุน และสะท้อนถึงผลตอบแทนของการตัดสินใจแต่ละครั้ง เรื่องนี้คนเริ่มคิดการวิเคราะห์หุ้นออกมา ว่า ทำอย่างไรถึงให้มีโอกาสกำไรได้มากที่สุดและขาดทุนน้อยที่สุด


ด้วยแนวคิดนี้ จึงเกิดเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ การวิเคราะห์พื้นฐานของบริษัท ที่ทำธุรกิจ และ การวิเคราะห์รูปแบบราคา โดยใช้หลักกาสถิติเข้าช่วยหาการเคลื่อนไหวของราคา


การวิเคราะห์พื้นฐาน ได้แก่ การดูประสิทธิภาพของบริษัท ผ่านข้อมูลรูปแบบต่างๆ เช่นข่าว งบการเงิน
การวิเคราะห์ทางเทคนิค ได้แก่ การดูรูปแบบ ของราคา พลาดวิธีการทางสถิติ หรือคณิตศาสตร์ ในการหาความหมาย ของรูปแบบนั้นนั้น


นอกนั้นอาจจะมีเล่นตามเพื่อนบอกบ้าง เขาเล่าว่าบ้าง อ่านข่าวบ้าง โบรกให้มาบ้าง ซื้อได้หุ้นจากใน line บ้าง แต่ผมถือว่า การเล่นหรือลงทุนแบบนี้ไม่ใช่การวิเคราะห์หลักทรัพย์


ดังนั้นการลงทุน สำหรับผมไม่ใช่แค่การซื้อถือและขายแต่ต้องมีการวิเคราะห์หลักทรัพย์ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมหลักของการลงทุน


สำหรับผมแล้ว ปัญหาก็ยังตามมาอยู่ดีนะครับ ไม่ว่าจะมีเคราะห์เยอะแค่ไหนแต่สุดท้าย สิ่งที่จะเกิดขึ้นในราคาของหลักทรัพย์ที่เราถือนั้น ไม่ว่าจะใช้เทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐานก็ราคาลงได้


ปัญหาคือบางคนเริ่มวิเคราะห์หลักทรัพย์ใหม่ๆ เป็นเรื่องของอนาคต แต่พอเจอกับผลการขาดทุน อาจจะเกิดความท้อแท้และเลิกล้มความตั้งใจ ซึ่งผมก็เคยเป็นในช่วงเวลาหนึ่งของการลงทุน อาจจะเรียกได้ว่าหลายปีเลยทีเดียว เคยขนาดที่เลิกเชื่อถือการวิเคราะห์ทุกรูปแบบ และหันหลังให้ตลาดหุ้น


แต่สำหรับตอนนี้ผมคิดว่าความรหัสในการวิเคราะห์หุ้นเกิดขึ้นได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใคร ที่เรียนการเงิน เศรษฐศาสตร์ หรือแม้แต่นักวิเคราะห์ เซียนลงทุน หรือวอร์เรนบัฟเฟตต์ ก็สามารถวิเคราะห์ผิดพลาดได้


แต่สิ่งที่ต้องได้กลับมา คือเรียนรู้ความผิดพลาดของเรา ว่าเราเพราะอะไรผิด นี่คือสิ่งสำคัญกว่าการได้กำไร สำหรับผมแล้ว การได้กำไรจากความคิดที่ผิด แย่กว่าการขาดทุนในความคิดที่ถูก


สุดท้ายสิ่งที่เราต้องปรับก่อนอย่างแรกคือ ความภาคภูมิใจในการลงทุน ที่เราเลือกซื้อ สิ่งที่เรา วิเคราะห์แล้ว ความจริงอันเจ็บปวด แม้แต่ผมเองบางครั้งก็ยังรู้สึกแย่เสมอเมื่อวิเคราะห์อล้วพริก หรือวิเคราะห์ถูกแล้วแต่ก็ยังขาดทุน


พัฒนาเรื่องความคิดการลงทุน พวกนักลงทุนเน้นคุณค่าหลายๆท่าน จะรู้จักคำว่ามิสเตอร์ market เป็นอย่างดี ถ้าสิ่งที่เราคำนวณไว้วิเคราะห์ไว้ เป็นสิ่งที่ถูก ซักวันราคาหุ้นก็ต้องไปหาจุดที่เราคิดไว้นั่นเอง


สิ่งสำคัญสำหรับการวิเคราะห์ทางพื้นฐาน คือกิจกรรมการถือ ปลผลประกอบการ ว่าออกมาอย่างที่เราคาดคิดไว้หรือไม่ ซึ่งจะแตกต่างกลับ พวกวิเคราะห์ทางเทคนิค ที่จะต้องมีจุด stop loss เพราะใช้การเคลื่อนไหว ของราคา เป็นตัวหลัก


สุดท้าย สอนวิธีวิเคราะห์ อาจจะแตกต่าง การตั้งแต่ แหล่งข้อมูลที่ใช้วิเคราะห์ แต่ผลที่ต้องการมีอย่างเดียว คือการได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น ป้องกันการขาดทุนจากส่วนต่างราคา ให้เกิดน้อยที่สุด


บางคนอาจจะไม่ยอมรับอีกค่ายนึง แต่สำหรับผม หรือตลาดปัจจุบัน มีคนใช้ วิธีเหล่านี้ควบคู่กันเยอะขึ้น จนอาจจะยากลำบากระหว่าง traderกับอินเวสเตอร์ ถ้าให้ผมบอก วิธีการใช้เทคนิคกับพื้นฐาน เวลาผมเลือกหุ้นผมใช้พื้นฐาน แต่เวลาซื้อขาย ผมใช้เทคนิคช่วย


สุดท้ายผมขอสรุป กิจกรรมการลงทุนของผม คือ


การเลือก
การวิเคราะห์
การซื้อ
การถือ
การขาย


ผมจะมาขยายความ กิจกรรม การลงทุนของผม ในบทความต่อไปนะครับ

ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin