การบริโภค

การบริโภคในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการกินข้าว หรือ รับประทาน  แต่หมายถึง การใช้จ่ายเพื่อได้มาเพื่อสินค้าหรือบริการต่าง

 ใน Wikipedia ให้ความหมายไว้ว่า

"การใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเอง โดยสิ่งที่มีอยู่นั้นจะเสื่อมสภาพ ร่อยหรอ หรือหมดไปในชั่วระยะเวลาหนึ่ง และอาจต้องหาสิ่งใหม่มาเพิ่มเติมเมื่อต้องการใช้อีก"

สำหรับการบริโภค ในเชิงเศรษฐศาสตร์มหภาคนั้น  ยิ่งภาคครัวเรือน ทำการบริโภคใช้จ่ายมาก นั้นเป็นการดีที่จะทำให้ตัวเลขมวลรวมประชาชาติ GDP สูงไปด้วย

แต่ถ้าเรากลับมาที่ส่วนของประชาชนคนธรรมดากัน ถ้าเราบริโภค นั้นหมายถึงรายจ่ายเรานั้นจะสูง ซึ่งผลที่ต้องสนใจ คือ รายได้ของตัวเรานั้นเหมาะสมกับการบริโภคที่สูงหรือไม่

ซึ่งผลของการบริโภคสูง ทำให้รายจ่ายสูง ถ้าในกรณีที่เรามีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย หมายถึงเราต้องเป็นหนี้เพื่อการบริโภคนั้นเอง สำหรับผม หนี้เพื่อการบริโภคนั้น เป็นหนี้ที่แย่ที่สุด เพราะเป็นการนำรายได้ในอนาคตมาจ่าย ณ ปัจจุบัน และต้องไปใช้คืนในอนาคตอีก

สำหรับผม ทุกวันนี้เราโดนยัดเยียดให้บริโภคตลอดเวลา ไม่ว่า เราจะอ่านหนังสือ นิตยสาร เดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถติดบนใต้ทางด่วน ขึ้นรถเมล้ ดูหนัง เปิดทีวี เราจะโดนยัดเยียดโดยการเชิญชวนจากโฆษณา

ซึ่งต้องยอมรับว่า การโฆษณาสมัยนี้ น่าสนใจ เชิญชวนให้ดูมาก ไม่ว่าจาก ตัวแสดง พรีเซ็นเตอร์ที่ หล่อ สวย เซ็กซี่ เทคนิคอลังการ ดนตรีไพเราะ และการนำเสนอด้วยเนื้อเรื่อง มุมมองที่ น่าสนใจ

แต่สุดท้ายก็ จะลงท้ายด้วยการเชิญชวนให้มาบริโภคสินค้า เหล่านั้นเหมือนๆกัน ซึ่งผมดูส่วนใหญ่ จะเชิญชวนให้บริโภคหมด ซึ่งจะมีพวกบริษัทหลักทรัพย์ กับ ธนาคาร ที่ชวนมาลงทุนทางอ้อม หรือ ฝากเงินบ้าง นอกนั้นเชิญชวนให้คุณบริโภคเสียตังหมดเลย

สำหรับผมนั้น การบริโภคอย่างไรก็จำเป็นครับ แต่ปัญหาคือ ปัจจุบัน เราบริโภคกันเกินกำลังหรือไม่ ซึ่งเป็นผลร้ายต่อการออมเงินของเรานั้นเองครับ

จะบริโภคอะไรอย่างน้อย ก็อยากให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และผลตอบแทนที่เราได้รับครับ ไม่ใช่บริโภคเพราะคำอวดอ้างสรรพคุณบางอย่าง ที่ไม่จำเป็นกับตัวเราก็ได้ครับ

ขอให้โชคดีในการใช้จ่าย ออม และ ลงทุน นะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin