บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มีนาคม, 2013

เมื่อตลาดหุ้นร่วงเราควรทำอย่างไร

ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็น 1600 จุด แถมสองวันนี้หุ้นตกลงไปกว่า 50จุด สิ่งที่น่าสนใจคือหุ้นรอบนี้วิ่งมาตลอดเกือบ 5 เดือน แต่ตกมาแรงๆ 2 วัน ประมาณ 3% ผมกลับรู้สึกเหมือนการวิ่งมา 5 เดือน เป็นความหลังอันแสนยาวไกลเหลือกเกิน สิ่งที่ผมสังเกตุเห็นคือ ทุกคนอยู่ในอาการตกใจ ทำตัวไม่ถูกว่าจะถือ ขาย ซื้อ อย่างไร โดนส่วนตัวผมจะพิจาณาดังนี้ ก่อนอื่น อย่างเราที่ผมดูว่าเรามีเงินสดสำรองเท่าไร ผมมักจะดีใจเสมอเมื่อเงินสดอยู่ในมือแล้วหุ้นลง อย่างที่สอง อะไรควรต้องไปจากพอร์ตของเรา ผมไม่ปฎิเสธว่า การถือหุ้นที่ดีควรถือจนวันตาย แต่ถ้าในพอร์ตเรามีหุ้นที่แพงไป หรือหุ้นที่ไม่น่าจะเติบโตเหมาะสมกับราคา ก็ควรนำออกไปจากพอร์ตบ้าง อย่างที่สาม รอ แต่ระหว่างรอสิ่งที่สำคัญสุดคือ พยายามหาหุ้นที่ดี มีการเติบโต ราคาลดลง แต่ไม่น่ามีผลกระทบจากวิกฤตที่เป็นสาเหตุในครั้งนั้นๆ ระหว่างนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการหาหุ้น ซื้อหุ้น ที่ระหว่างก่อนหน้าแพงจะไร้เหตุผล แต่ตลาดหุ้นร่วงลงมา อาจทำให้ราคาเหมาะสมขึ้นก็ไ้ดนะครับ อย่างสุดท้าย ถ้ามีเงินเหลือ ก็ขอให้ซื้อหุ้นที่ดี ในราคาที่ถูกลงครับ หลักการง่ายๆ ที่ใครๆก็ทำลำบาก แ

ปรับโครงสร้างรายจ่ายส่วนตัว

รูปภาพ
รายจ่ายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีการใช้จ่ายยิ่งชีวิตในเมืองด้วยแล้ว เรียกว่าแทบจะมีรายจ่ายทุกวันไม่มีวันไหนที่เงินไม่ออกจากกระเป๋าเรา ถึงไม่เสียค่าใช้จ่ายทางตรงก็ต้องมีจ่ายทางอ้อม บางครั้งคนเราสนใจแต่การหารายได้ แต่ด้วยชีวิตคนทำงานรับเงินเดือนนั้น การจะเสริมรายได้เป็นข้อจำกัดระดับนึง เลยต้องมาสนใจการควบคุมรายจ่ายแทน โดยผมจะทำการแยกประเภทค่าใช้จ่ายที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน และช่วงปัจจุบันนี้ คุณพ่อผมต้องเข้ารักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งก็เกิน 30000 ขึ้นไป แต่ยังดีที่ ญาติช่วย แม่ยังมีกำลังรักษาอยู่ แต่ก็ส่งผลต่อชีวิตผมเยอะเหมือนกัน เพราะต้องจ่ายเงินช่วยคุณแม่อีกคนตามหน้าที่ของลูกที่ควรต้องทำ ดังนั้นผมจึงต้องมาทบทวนแผนรายจ่ายแต่เดือนผมใหม่อีกครั้ง เลยบันทึกเก็บไว้อ่านเพื่อทราบแนวความคิดในปัจจุบัน เพื่อได้เปรียบเทียบและปรับปรุงในอนาคตด้วย พื้นฐานชีวิตส่วนตัว ไม่มีรถ ยังไม่มีแฟน ภรรยา หรือ บุตร มีเงินเดือนประจำ มีค่าเวร ค่ารถบ้าง ไม่รวมรายได้จากการลงทุน ไม่ว่าส่วนต่างราคา และ เงินปันผล การแบ่งประเภทค่าใช้จ่ายของผม ค่าใช้จ่ายทางตรง ในชีวิตประจำวัน สำหร

การเพิ่มมูลค่าให้กับสินทรัพย์และตัวเอง

การเพิ่มมูลค่า Value added เป็นเรื่่องที่ผมได้ยินมากในวิชาเศรษฐศาสตร์ตอนปริญญาตรี ซึ่งเป็นหลักการสำคัญอย่างนั้น ที่จะสามารถทำให้เราขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ได้เปรียบมากขึ้นต่อคู่แข่ง และผู้บริโภค การเพิ่มมูลค่านั้้นส่วนใหญ่จะไปลงที่ความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ไม่ว่าจะเป็นเชิงออกแบบ ผลิตภัณฑ์ สินค้า การบรรจุหีบห่อ เพื่อให้สินค้าดูดีขึ้น สวยงามขึ้น น่าใช้ขึ้น แต่สิ่งที่่ออกแบบให้สามารถมีประโยชน์การใช้สอยให้มากขึ้น ถือว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าได้มากกว่าการออกแบบเชิงความสวยงาม เป็นที่มาของคำว่า นวตกรรม นั้นเองครับ เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์นั้นมุ่งเน้นให้สร้างนวตกรรม เพื่อ เพิ่มมูลค่าสินค้า หรือ เพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ นั้นเอง นวตกรรม นั้น มีได้ทั้งสินค้า บริการ ในยุคปี 2000 เป็นต้นมา มักใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กัน เพื่อสร้างนวตกรรมใหม่ และ ลดต้นทุนลงได้ด้วย เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน, ตุ๊กตาเฟอบี้, Smart Phone เป็นต้น นั้นคือสินค้าที่ทำการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง คือจัดสรร เทคโนโลยี การออกแบบ การสร้างนวตกรรม เป็นต้น คราวนี้ถ้ามาลองดูพวกอสังหาริมทรัพย์บ้าง สมัยก่อนมักนิยมลงทุนในที่ดิน มักจะซื้อที