บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2013

รู้จักธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้า Electric Power Production

รูปภาพ
ธุรกิจโรงผลิตไฟฟ้าเป็นอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งมีบริษัทผลิตไฟฟ้าจำนวนหนึ่งอยู่ในบริษัทมหาชน หรือ มีหุ้นให้เราซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ให้เราได้ลงทุน พอพูดถึงพลังงานเป็นธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นธุรกิจที่ต้องลงทุนสูง ในอดีตถือเป็นธุรกิจของภาครัฐ คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย   http://www.egat.co.th/  จัดการโดยรัฐวิสาหกิจ แต่พอประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สากลมากขึ้น รวมถึงการเข้าสู่เศรษฐกิจทุนนิยม ธุรกิจที่ต้องลงทุนหนักๆ และผูกขาดโดยภาครัฐ ก็ต้องเปิดให้เอกชนมาเข้ามาผลิตด้วย ด้วยเหตุผลดังนี้ 1. เพิ่มการแข่งขันในกิจการพลังงาน ทําให้กิจการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้บริโภค มีพลังงาน ใช้อย่างเพียงพอในราคาที่เหมาะสม  2. ลดภาระการลงทุนของรัฐและลดภาระหนี้สินของรัฐ/ประเทศ  3. ส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ในกรณีของโครงการผู้ผลิตไฟฟ้า รายเล็ก (SPP) ซึ่งใช้ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) เป็นต้น  4. ทําให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับบริการและคุณภาพไฟฟ้าที่ดีขึ้น  5. สนับสนุนให้ประชาชน มีส่วนร่วมในการพัฒนากิจการด้านพลังงานของประเทศ  6. ช่วยพัฒนาตลาดทุน (ผมช

สูตรดอกเบี้ยทบต้น Compound Interest formula และ ค่าเสียโอกาส opportunity cost

ผมเคยเขียนเรื่องดอกเบี้ยทบต้นไปแล้วครั้งนึ่ง ที่ http://gkenginvest.blogspot.com/2012/09/blog-post.html  ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้วิธีคิดว่ามันมาอย่างไร ซึ่งดอกเบี้ยทบต้น เป็นการคิดเรื่องผลตอบแทนแบบง่าย ซึ่งสูตรก็ดังนี้นะครับ เงินต้น * (1*อัตราดอกเบี้ย%)^จำนวนปี สมมุตินะครับ ว่าผมอยากรู้ว่าผมฝากดอกเบี้ย 5% ในเงินต้น 10,000บาท ใน 4 ปี จะได้เท่าไร ก็นำมาเข้าสูตรเลยครับ 10,000*(1.05)^4 ก้ได้ 12,155.06 บาท ครับ พวกนี้ผมใช้เรื่องต้นทุนค่าเสียโอกาสตามวิชาเศรษฐศาสตร์นะครับ สมมุติถ้าเราเอาเงินก้อนนึงไปทำอะไร ไม่ว่าจะมีสาระ หรือ ไม่มีสาระก็ตาม เราลองเอา อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ ฝากประจำ มาคำนวณดูเล่นๆ ก็ได้ครับ ว่าเราเอาเงินไปทิ้ง วา่ผ่านไปกี่ปี ได้เงินเท่าไร และลองเปรียบเทียบกับสิ่งท่เราจะใช้ดู สมมุติ ตัวอย่าง ท่านพ่อ ท่านแม่ ส่งเราไปเรียน มหาลัย เดือนละ 8000บาท + ค่าเทอม ปีละ 40000 บาท เป็นจำนวน 4 ปี ค่าเทอม 4 ปี 40000 * 4 =  160000 เงินเดือน 8000*12*4 =  384000  รวมแล้วได้ เท่ากับ 384000+160000 =  544000 ต้นทุนส่งเราจบ ปริญญาตรี ครับ ในกรณีที่พ่อแม่เอาเงินก้อนนี้ไปฝ

เริ่มต้นเรียนรู้บัญชี How to start accounting

บทความนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเริ่มต้นกับบัญชี ซึ่งนักลงทุนที่เป็นสายพื้นฐานจริงๆ หรือที่ต้องการเข้าใจ เข้าถึงบริษัทนั้นๆ ได้ ความสามารถขั้นพื้นฐานคือวิชาบัญชี ทำไมถึงต้องรู้วิชาบัญชี? เพราะวิชาบัญชีเป็นการบันทึกรายการธุรกรรมทั้งหมด ที่เป็นกิจกรรมของบริษัท สรุปไว้ตามหัวข้อบัญชีแต่ละเรื่อง แต่ละเงิน เช่น งบดุล งบกำไรขาดทุน และ งบกระแสเงินสด เป็นต้น ถ้าเราสามารถเข้าใจความหมายของบัญชี เราย่อมจะพอมองเห็น ความเป็นไปของธุรกิจในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้เรียนการบัญชีมา หรือ เรียนมาน้อย นั้นว่าการเริ่มเรียน เริ่มศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับตัวผมในช่วงแรก ก็อ่านแบบงง ต้องใช้เวลานานในการแกะงบมากๆ จะทำให้เราสงสัย พอสงสัยก็จะกลับมาหาอ่านเพิ่ม หรือ ไปอ่านตามเว็บบอร์ดต่างๆ สุดท้ายก็ขอให้ขยันๆ ทำการบ้านโดยการแกะงบนะครับ ส่วนแหล่งหนังสือของวิชาบัญชี ผมก็แนะนำไปอ่านตามหนังสือเรียนของมหาวิทยาลัย ส่วนผมก็แนะนำตำราของมหาวิทยาลัยรามคำแหงนะครับ ความจริงมีทั้ง คลิปการสอนด้วย และตำราวิชาบัญชี ด้วยครับ เริ่มต้นด้วย วิชา AC101 ถึงเป็นพื้นฐานสุดของการรู้จักวิชาบัญชี เริ่มจากรู้จัก

บริษัทหลักทรัพย์จุดเริ่มต้นของนักลงทุน

คำสั้นๆ ที่เราคุ้นหูในการซื้อขายหุ้น “มาร์เก็ตติ้ง” “โบรกเกอร์” หรือ เรียกสั้นว่า “มาร์” “โบรก” คือ เป็นบริษัทที่ให้บริการการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ตลาดรอง หรือ ตลาดหลักทรัพย์ที่เราคุ้นเคยนั้นเอง อีกนัยหนึ่ง คือ คนที่เป็นคู่หูในการซื้อขายหุ้นของเรา ซึ่งส่วนใหญ่ประเด็นที่นักลงทุนทั่วไปชอบถามกันคือ  “ โบรกคุณดีไหม ” ซึ่งบางครั้งผมก็นึกไม่ออกหรอกครับ อะไรมันดีกว่าอย่างไร ส่วนใหญ่พอเปิดระบบ Tread ให้ดู ก็จะเหมือนบ้างต่างบ้าง ตามแต่ละบริษัทที่มีให้บริการ นอกนั้นก็เครื่องมือที่ให้ใช้วิเคราะห์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของ ผู้ให้บริการอื่นๆ เช่น. efinancethai ( http://www.efinancethai.com/) เป็น ต้น   ซึ่งผมลองไล่ประเด็นที่ส่วนใหญ่ชอบเปรียบเทียบกัน มีดังนี้ครับ -        โปรแกรม Treading แต่ละรายมีต่างกันบ้าง อาจใช้ชองร่วม เช่น Steaming, Oneclick หรือ ใช้ของเฉพาะแต่ละบริษัทที่มี -        โปรแกรม Mobile Treading แต่ละบริษัท อาจมีต่างกันไปตามที่ใช้ แต่ของผมคือ Steaming -        โปรแกรมวิเคราะห์หุ้น พวกตีกราฟได้ ส่วนใหญ่ข้อมูลอย่างน้อยก้ ต้องมีให้สืบค้น รูปแบบของราคา Patten of

บันทึกการลงทุน 4/4/2556 วันที่หุ้นตกจนพลิกบวก BOJ กับนวตกรรมเครื่องมือนโยบายการเงิน

รูปภาพ
วันนี้เป็นอีกวันที่มีดัชนีตลาดหลักทรัพย์ได้ผันผวนอย่างคาดการณ์ไม่ได้อีกหนึ่งวัน โดยตอนเช้าเร่ิมต้นด้วยหุ้นตกลงมา 40 จุด ไปทดสอบแนวต้านที่ 1480 แต่ก็เห็นได้ชัดว่า ไม่ผ่าน และทำการวิ่งขึ้นมาแถว 30 จุดจนหมดช่วงเช้า และช้่วงบ่ายหลังจากนายกเรา ไม่โดนชี้มูลความผิด หุ้นก็วิ่งจนกลับมาปิตตลาดที่ 7 จุด ดังนั้นสำหรับผม ตอนนี้ตลาดกำลังสงสัยว่าจะลงอย่างเต็มที่ได้รึยัง แต่ก็ยังมาได้แค่ 1480 แต่คราวนี้ จะวิ่งขึ้นก็คงไม่เต็มที่เท่าไร คงจะออก Sideway มั้งครับ อันนี้คือที่ผมเดา แต่สำหรับคุณ ถ้าจะเอาเวลามาสนใจที่ผมเดาตลาด  ขอให้เอาเวลาไปทำการบ้านเองดีกว่าครับ  แต่สิ่งที่ผมสนใจข่าวในวันนี้ไม่ใช้ นายกนะครับ แต่เป้น Bank of Japan ที่ซื้อสินทรัพย์ 2 เท่า และที่น่าสนใจกว่าคือ การยกเลิกนโยบายดอกเบี้ย ให้ไปเป็นตั้งเป้า จำนวนเงินฝากในระบบแทน ต้องเรียกว่า นโยบายดอกเบี้ยมีใช้มาตั้งแต่ยุคเศรษฐศาสตร์มหภาค คือการกำหนดดอกเบี้ยแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคารกลางกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นต้นทุนการทำงานของธนาคารด้วย   ถ้าเราต้องการดูดเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ ก็ใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยครับ ถ้าอยากอัดฉีดเงินเข้าระบ