บันทึกการลงทุน 29/5/2555 ศาสตร์แห่งการพยากรณ์

การพยากรณ์ สำหรับผมคือการให้ทิศทางในอนาคตว่าแนวโน้มที่เกิดขึ้นควรเป็นอย่างไร

ซึ่งคนโดยทั่วไปมักจะคิดถึง หมอดู ผู้มีความสามารถในการดูดวงด้วย รูปแบบต่างๆ เช่น ลายมือ โครงหน้า วันเกิด เวลาตกฝาก ดูดาว

แต่หลายๆ ครั้ง เราก็ลืมไปว่าการพยากรณ์ มักออกมาจาก ผู้เชียวชาญด้านต่างๆ เช่น นักรัฐศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ หรือบางครั้ง ก็มีนักข่าว ก็มี

ตัวอย่างเช่น ตอนน้ำท่วมปี 54 ผมได้รับฟังการพยากรณ์จากนักวิชาการ โดยเฉพาะอุทกศาสตร์ ที่พยากรณ์ แต่ถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ถ้าตามสมมุติฐานและข้อมูลที่ได้รับ

สำหรับผม นักวิชาการนั้น ก็ใช้ความรู้และประสบการณ์เพื่อพยากรณ์ มองแล้วก็ไม่ต่างจากหมอดู แต่เครื่องมือเค้าคือ วิชาการต่างๆ ที่ได้ศึกษามา นั้นเอง

ส่วนใหญ่กระบวนการนั้นคือ มีข้อมูลอะไร และจะมีผลอะไรตามมา ด้วยสาเหตุเพราะอะไร

ทุกศาสตร์ที่ใช้คำนวณ และ พยากรณ์ ก็มีแค่นี้ละครับ เศรษฐกิจ การเมือง ธรรมชาติ ดวง ทุกอย่างเหมือนกันหมดครับ

ส่วนใครจะแม่น คือคนที่พยากรณ์ผลได้ใกล้เคียงมากที่สุด

กลับที่เรื่องการลงทุนในหุ้น หรือ การพยากรณ์หุ้น ใบ้หุ้น ให้ทีเด็ด จะอะไรก็ตามที่เข้าเรียกกัน

สำหรับการพยากรณ์มีเต็ม Facebook หรือ email บางคนมี สื่ออื่นๆ อีก แต่ความถูกต้องมีแค่ไหน คิดว่าคนที่ลองตามพวกนี้ น่าจะรู้ดีที่สุด

บางครั้งการพยากรณ์ตลาดหลักทรัพย์ จะพูดตาม SET Index ว่าขึ้นหรือลง ซึ่งคนที่สนใจคือพวกซื้้อ ดัชนีนั้นเองครับ เพราะหลายครั้ง ตลาดลงหนักๆ แต่หุ้นบางตัววิ่งขึ้นสวนตลาดโชว์ ก็มีบ่อยไปครับ

พอเจาะละเอียดมาหน่อย คือ หุ้นรายตัว บางท่านใช้การพยากรณ์จากหลักพฤติกรรม จากกราฟ ล้วนๆ ก็มี แต่สิ่งนั้นคือการเล่นกับตลาด ไม่ได้สนใจพื้นฐาน

สำหรับหลายครั้งเห็นคนโพสใน Facebook ว่าเ พรุ่งนี้ดี๋ยวจะปลั้กหลุดบางละ กางเขนแห่งความตายกำลังมา ถ้าถูกก็จะมีคนมาติดตาม แต่ถ้าผิด ก็เงียบหายกันไป แต่สำหรับผม มองจากพฤติกรรมตลาดนั้น อาจมีแนวโน้ม น่าจะ หรือ อาจจะ เป็นแบบนั้น

แต่สำหรับคนที่ตามพวกนักพยากรณ์ อย่าลืมนะครับ ว่าตอนนั้นทำการซื้อขายหุ้น เค้าไม่มีเวลามาโพสบอกแน่นอน ว่า เปลี่ยนใจละ

แม้แต่ผมเอง เพื่อนบอก ไม่อะไรมาก ขอแค่บอกว่า ซื้ออะไร ซื้้อแล้วนะ  แต่ผมก็ไม่เคยบอก เพราะขนาดต่อผมซื้อ ผมไม่เคยมั่นใจสักครั้งว่ามันจะลงต่อ รึปล่าว หรือบอกแล้ว เพื่อนมาบอกตอนหลังว่า ไม่กล้าเข้า -*-

หลายๆ ครั้ง การพยากรณ์มั้งจะหลักฐานบางอย่างมาแสดงความเชื่อของตัวเอง แต่สำหรับผม บางครั้ง หลักฐานหลายๆอย่าง พร้อมจะพังทลายได้เสมอ ในสถาการณ์ 1 ใน 100 เช่น คนสมัยก่อนเชื่อว่าโลกแบน ของหนักกวา่ตกถึงพื้นเร็วกว่า หรือการรบในสมัยโบราณ การรบอาจแพ้ได้หลายครั้ง แต่การชนะแค่ศึกครั้งเดียว อาจเปลี่ยนสถานการณ์ได้หมด

ผมพยายามเป็นนักพยากรณ์เหมือนกัน แต่จะมุุ่งเน้นไปที่กำไรแต่ละ ไตรมาสมากกว่า ว่าควรเพิ่มขึ้นระดับไหน แต่ก็พลาดหนักๆมาหลายครั้งเหมือนกนันครับ ส่วนจังหวะการเข้าหลังๆ ผมใช้กำไรที่คาดว่าจะได้ สร้าง P/E  หรือ เงินปันผล ในอนาคตชึ้น แล้วถามตัวเองว่ายอมรับ ราคานี้ได้หรือไม่ ถึงตัดสินใจซื้อ แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปครับ

เพราะสุดท้าย การพยากรณ์ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ก็เป้นการคาดการณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าทำไม เพราะอะไร และจะเกิดอะไรบ้าง แต่เรานักลงทุน จะเลือกใช้คำพยากรณ์แบบไหนต่างหาก เชือ่หัวปรักหัวปรำ หรือ มาประยุกต์ใช้ หรือ เป็นชาวสวนตลอดเวลา

สุดท้ายก็ขอให้โชคดีในการลงทุนทุกท่านนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin