บันทึกการลงทุน 06/10/2555 ความคาดหวังของกำไรกับการคาดการณ์ราคาหุ้น (Hope)
ระหว่างช่วงที่ผมนั่งรองบการเงินไตรมาส 3 อยู่นี้นั้น ราคาหุ้นหลายตัวในพอร์ตของผมได้ขยับไปจนกำไรมากกว่าที่หวังไว้ ในตอนซื้อซะอีก
บางครั้งเป็นการลำบากที่คิดว่าจะขายออกไปจากพอร์ต แต่ก็ยังถือไว้เพราะการมองระยะยาวมากๆ
หลายครั้ง นายตลาด Mr.Market มักจะทำให้การตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ หุ้นของผม เป็นไปได้อย่างยากเย็นมาก ด้วยราคาที่ไม่สมเหตุสมผล บางครั้งมันมาเย้ายวนผม ให้ทำอย่างที่ใจไม่ต้องการบ่อยๆครั้ง
สำหรับช่วงนี้ ราคาของตลาดหลักทรัพย์ ณ ปัจจุบัน สำหรับผมไม่ใช่จุดที่น่าสนใจเท่าไร เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่แล้ว จนถึงต้นปีนี้ การหาหุ้นเข้าในพอร์ต ยากมาก แต่ก็ลำบากในการล้างพอร์ต เพราะพอร์ตเล็กอยู่ สิ่งที่ทำคือ เลี้ยงพอร์ตต่อไปตามราคาที่เหมาะสม
ราคาของหลักทรัพย์ แสดงถึงสิ่งที่คนในตลาดยอมซื้อขายแลกเปลี่ยน ในช่วงนี้ เงินไหลเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์มาก ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางจิตวิทยา หรือ การอัดฉีดเงินจากระบบเศรษฐกิจก็ตาม ทำให้เงินเข้าในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เมื่อเงินมากขึ้น ทำให้ความต้องการสูงขึ้น ก็ทำให้มีการซื้อหลักทรัพย์สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นนั้นสูงตามไปด้วย
ปริมาณเงินที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น เป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อ ราคาหลักทรัพย์ หรือ ราคาหุ้นในบ้านเรา
คราวนี้กลับมาที่พื้นฐานและความเห็นส่วนตัว ปัจจัยสำคัญที่ผมให้น้ำหนักมาก คือ กำไรหรือการเติบโตของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งราคาเป็นส่วนหนึ่งของผลสะท้อนของมูลค่า
ปกติ ราคาเป็นตัวสะท้อนทั้ง การเติบโตและความร้อนแรงของตลาด มันเป็นของที่แยกไม่ออก ซึ่งบางครั้ง การเติบโตที่ผมรอคอยอาจโดนความร้อนแรงของตลาดกลบไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดได้ในภาวะที่ตลาดร้อนแรง
ส่วนในกรณีตรงข้าม บางครั้ง ตลาดอ่อนแรง ราคาก็ไม่ได้ไปตามความเป็นจริง เช่น ถูกเกินไปกว่าความน่าจะเป็น ซึ่งพวกนี้ถ้าคนค้นพบ ก็จะเรียก MOS หรือ Margin of safety นั้นเอง ตลาดแบบนี้ เกิดเมือ่ ความกลัวปกคลุมตลาดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครต้องการหุ้นอีกนั้นเอง
ซึ่งสุดท่าย ถ้าเรามองที่คุณค่าของตัวหลักทรัพย์ จะทำให้เราจะมองทะลุเรื่องราคาลงไปที่คุณภาพของก่อน และค่อยพิจารณาเรื่องราคาอีกทีหนึ่งนั้นเอง
สำหรับผม Q3 Q4 /2555 อาจเป็นปีที่กำไรของบริษัทในการถือครองของผมโตขึ้นจริง แต่ ราคานั้น อาจกระโดดไปไกลกว่าที่มันควรเป็นแล้วก็ตาม แต่ต้องยังไม่กล้าขาย เพราะ เงินปันผล กับต้นทุนนั้นเอง
ช่วงนี้คงถือเงินสดไว้ก่อน และ ค่อยว่ากัน ว่าจะทำไงกันต่อ เพราะบางที ราคาแพงแล้ว อาจแพงต่อได้อีกครับ
โชคดีในการลงทุนครับ
บางครั้งเป็นการลำบากที่คิดว่าจะขายออกไปจากพอร์ต แต่ก็ยังถือไว้เพราะการมองระยะยาวมากๆ
หลายครั้ง นายตลาด Mr.Market มักจะทำให้การตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ หรือ หุ้นของผม เป็นไปได้อย่างยากเย็นมาก ด้วยราคาที่ไม่สมเหตุสมผล บางครั้งมันมาเย้ายวนผม ให้ทำอย่างที่ใจไม่ต้องการบ่อยๆครั้ง
สำหรับช่วงนี้ ราคาของตลาดหลักทรัพย์ ณ ปัจจุบัน สำหรับผมไม่ใช่จุดที่น่าสนใจเท่าไร เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่แล้ว จนถึงต้นปีนี้ การหาหุ้นเข้าในพอร์ต ยากมาก แต่ก็ลำบากในการล้างพอร์ต เพราะพอร์ตเล็กอยู่ สิ่งที่ทำคือ เลี้ยงพอร์ตต่อไปตามราคาที่เหมาะสม
ราคาของหลักทรัพย์ แสดงถึงสิ่งที่คนในตลาดยอมซื้อขายแลกเปลี่ยน ในช่วงนี้ เงินไหลเข้ามาในตลาดหลักทรัพย์มาก ไม่ว่าด้วยเหตุผลทางจิตวิทยา หรือ การอัดฉีดเงินจากระบบเศรษฐกิจก็ตาม ทำให้เงินเข้าในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เมื่อเงินมากขึ้น ทำให้ความต้องการสูงขึ้น ก็ทำให้มีการซื้อหลักทรัพย์สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นนั้นสูงตามไปด้วย
ปริมาณเงินที่เข้ามาในตลาดมากขึ้น เป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อ ราคาหลักทรัพย์ หรือ ราคาหุ้นในบ้านเรา
คราวนี้กลับมาที่พื้นฐานและความเห็นส่วนตัว ปัจจัยสำคัญที่ผมให้น้ำหนักมาก คือ กำไรหรือการเติบโตของบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งราคาเป็นส่วนหนึ่งของผลสะท้อนของมูลค่า
ปกติ ราคาเป็นตัวสะท้อนทั้ง การเติบโตและความร้อนแรงของตลาด มันเป็นของที่แยกไม่ออก ซึ่งบางครั้ง การเติบโตที่ผมรอคอยอาจโดนความร้อนแรงของตลาดกลบไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดได้ในภาวะที่ตลาดร้อนแรง
ส่วนในกรณีตรงข้าม บางครั้ง ตลาดอ่อนแรง ราคาก็ไม่ได้ไปตามความเป็นจริง เช่น ถูกเกินไปกว่าความน่าจะเป็น ซึ่งพวกนี้ถ้าคนค้นพบ ก็จะเรียก MOS หรือ Margin of safety นั้นเอง ตลาดแบบนี้ เกิดเมือ่ ความกลัวปกคลุมตลาดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีใครต้องการหุ้นอีกนั้นเอง
ซึ่งสุดท่าย ถ้าเรามองที่คุณค่าของตัวหลักทรัพย์ จะทำให้เราจะมองทะลุเรื่องราคาลงไปที่คุณภาพของก่อน และค่อยพิจารณาเรื่องราคาอีกทีหนึ่งนั้นเอง
สำหรับผม Q3 Q4 /2555 อาจเป็นปีที่กำไรของบริษัทในการถือครองของผมโตขึ้นจริง แต่ ราคานั้น อาจกระโดดไปไกลกว่าที่มันควรเป็นแล้วก็ตาม แต่ต้องยังไม่กล้าขาย เพราะ เงินปันผล กับต้นทุนนั้นเอง
ช่วงนี้คงถือเงินสดไว้ก่อน และ ค่อยว่ากัน ว่าจะทำไงกันต่อ เพราะบางที ราคาแพงแล้ว อาจแพงต่อได้อีกครับ
โชคดีในการลงทุนครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น