สังคมคือการรวมตัวอยู่ของมนุษย์ ตลาดหุ้นคือการรวมตัวอยู่ของผู้แสวงหาผลตอบแทน

ช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่สังคมไทย ได้มีการแสดงออกของความเห็นทางการเมือง แม้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เป็นอีกกลุ่มนึง ที่เห็นต่าง แต่รวมๆ สำหรับปรากฎการณ์ของการชุมนุมครั้งใหญ่ในประเทศไทยของเรา จะไม่ค่อยมี ม็อบชนม็อบ ซึ่งสำหรับผมก็ดีแล้ว ไม่งั้นจะกลายเป็นสงครามกลางเมืองไป

แต่ส่ิ่งที่น่าสนใจกว่าสำหรับผมก็คือตลาดหุ้นมีแนวโน้มอ่อนแอ และ ไม่เสถียรภาพเอาซะเลย พอมีสาเหตุทางการเมืองก็ร่วงเอาๆ พอจบบางประเด็นก็ขึ้นเอาๆ

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราน่าจะเริ่มชินกับการประท้วง ก่อม๊อบ ไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ตาม ม๊อบและการประท้วงอยู่คู่ประเทศไทยมาสักใหญ่ละ แต่สิ่งที่ผมกลัวกว่า คือ เราเริ่มชินกับมัน

สังคมเหมือนยอมรับการมีอยู่ของม๊อบไปแล้ว ไม่ว่าจะสีไหน ขั่วไหนก็ตาม แต่อีกอย่างที่ผมกลัวกว่าคือ ระดับผู้บริหารของประเทศ ละเลยเรื่องการแก้ปัญหาที่ก่อให้เกิดม๊อบ หลายๆครัั้ง หลายๆรัฐบาลทั้งๆ ที่รู้ว่าการกระทำ บางอย่างเป็นการเรียกแขก เค้าก็ยังทำ เพราะไม่ว่าโดนเหตุผลใดๆ ก็ตาม ที่ทำให้เค้ารู้สึกว่ามันไม่ใช่ การตอบปัญหาของผู้บริหารประเทศ ผู้ออกกฎหมาย หรือผู้บังคับใช้กฎหมายก็ตาม หลายๆครั้งทำให้หลายๆคน มีอารมณ์ร่วม และเก็บกด จนต้องมีจุดเดือดที่กลายสถานการณ์เป็นการชุมนุม

และทุกครั้งการจบม๊อบในระดับชาติแต่ละครั้ง บอกได้คำเดียวว่า มันไม่เคยง่ายเลย ทั้งยืดเยื้อ ร่วมไปถึงมีการสูญเสียไม่ว่าจะด้าน เศรษฐกิจ สังคม หรือ ชีวิตคน ก็ตาม

แต่สุดท้ายสังคมก็จะเดินหน้าต่อไปอยู่ดี ทุกอย่างเหมือนเป็นวงจรไปแล้ว ในกล่องที่เรียกว่าสังคมคือการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ที่เรียกว่าคนไทย

ส่ิ่งที่ทำให้ผลประโยชน์ของคนกลุ่มหนึ่งเสียไป อย่างไรเหตุผล ยิ่งให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้รับอย่างไม่มีเหตุผลด้วยแล้ว นี้ละครับ คือ เชื้อเพลิงที่ดีที่สุด คนมีอำนาจทั้ง 3 เสาหลักชองการปกครองด้วยเสียงข้างมาก ควรพึงระวัง การจัดสรรผลประโยชน์ให้ลงตัวที่สุดตามอำนาจที่ท่านได้รับจากกฏหมาย หรือ ไม่ใช่กฏหมายก็คาม ต้องทำให้ผลประโยชน์ลงตัวที่สุด เพื่อให้เกิดความยุติธรรมที่สุด

คราวนี้กลับมาที่ตลาดหุ้นของเราบางนะครับ เลยไปไกลจากสิ่งที่เห็นมาหลายๆปี ที่ตลาดหลักทรัพย์ สำหรับผมอาจจะเหมือนระบบนิเวศวิทยา รูปแบบนึง หรือ เป็นที่รวมของบุคคล กลุ่มบุคคล หรือ นิติบุคคลที่นำเงินเข้ามาเป็นทุน สำหรับลงทุน และ รับผลตอบแทนกลับไป

ซึ่งผลตอบแทนอาจเป็น ส่วนต่างราคา ทั้ง + - เงินปันผล หุ้นปันผล สิทธิอื่นๆ สำหรับตลาดหุ้น ถ้าคุณเป็นนักเก็งกำไร มันก็เป็ฯแค่ Zero sum Game คือ ต้องมีคนได้ และ คนเสีย เราจะได้แค่ ส่วนต่างราคาที่คนอื่นได้เสนอซื้อ ขาย ให้ตามที่เราต้องการ ซื้อ ขาย

แต่ถ้าคุณเป็นนักลงทุนถือหุ้นเพื่อปันผลระยะยาว คุณก็ได้ผลตอบแทนจาก การดำเนินธุรกิจด้วย

น่าเสียดาย ที่ในตลาดหุ้นนั้น ไม่มีม็อบที่เกิดจากความเครียดสะสมมาเพราะ ผลประโยชน์ไม่ลงตัว ถ้ามี ผมว่าป่านนี้ พวกเม่า บนดอย คงรวมตัวกันได้ไปหลายปีแล้ว และเดินไปปิดล้อมที่บ้านรายใหญ่ (ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้) และคงสำเร็จไปนานละ

นี้คือความต่าง ระหว่าง การรวมตัวของสังคม กับ การรวมตัวเป็ฯตลาดหุ้น ครับ

ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร มีคนได้ต้องมีคนเสีย แต่ตลาดหุ้นนั้น จะได้หรือจะเสีย มีปัจจัยให้ด่าได้ไม่กี่อย่างนะครับ ไม่ต้องไปปิดล้อม หรือ สร้างม็อบขึ้นมา เพราะสิ่งที่คนลงุทนไป มันเป็นต้นเหตุอยู่แล้วครับ

วันนี้นอกเรือยงมาไกล แต่สุดท้ายผมอยากให้คิดว่า ในตลาดหุ้นมันเป็นที่อยู่ของผลประโยชน์ ความจริงมันรุนแรง เห็นชัดกว่า สังคมที่เราอยู่ แต่เราไม่สามารถทำไรได้ เพราะ เราหาคนที่ต้องรับผิดชอบไม่เจอครับ บางคนก็เรียกว่า จ้าว บ้าง แก็งสี่โมงบ้าง หรือ อะไรก็ตามที่เราพอโทษได้ แต่เราก็ตอบไม่ได้จริงว่า เค้ามีอยู่จริงหรือไม่ นะครับ แต่เวลาที่ทุกคนโทษนู้น นี้ สิ่งที่เราต้องโทษให้เอยะคือ ตัวเราเอง ซึ้อหุ้นบ้าตัวนี้มาเพราะอะไร ทำไมลงทุนตัวนี้ คำอบพวกนี้จะบอกคุณว่า คูณคือตัวการที่แท้จริงหรือไม่ ในการทำให้ตัวเองเสียผลประโบชน์ ไม่ต้องไปโทษใคร การลงทุนเรายังมีทางสู้นะครับ ถ้าคุณศึกษาและเข้าใจมันดีพอ

โชคดีในการลงทุนนะครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin