การเล่นหุ้นในช่วงวิกฤต

ผมไม่เคยลงทุนในหลักทรัพย์ช่วงวิกฤตทางการเมือง

โดยวิกฤตการเมืองรอบนี้ถึงขั้นการจราจลการเมือง ปิดราขประสงค์ ปิด BTS ไล่เผาเซ็นทรัลเวิลด์ตึกราม ห้องสมุดมารวย บ้านช่อง ปาระเบิดธนาคารกรุงเทพกี่สาขาแล้วก็ไม่รู้ ปล้น 7-11 และอื่นๆ อีกมากมาย ให้เก็บเรื่องพวกนี้ไว้ในเว็บการเมืองหรือเว็บบอร์ดที่ให้โอกาสพูดคุยถกเถียง หรือ Social network โดยอะไร

แต่วิกฤตขั้นหนักๆ ได้แก่ช่วงพฤษาทมิฬ ในยุคนั้น ผมเคยอ่านหนังสือของ ดร.นิเวศ ดร.วิกรม แต่เนื่องจากมันแล้วผมจำไมได้

แต่ที่ผมรู้แน่นอน คือ หุ้นตกถล่มทลาย ในเหตุการณ์ปี 2535 แต่อย่าลืมว่า 2538 เป็นปีที่ตลาดหลักทรัพย์ไทยไปถึงจุดสูงสุดในประวัติศาสตร์

แม้ครั้งนี้ผมว่ามันเกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่าครั้งไหน แต่ผมก็ยังเชือว่า แสงสว่างยังอยู่ที่ปลายทางครับ

คราวนี้ที่สำคัญคือผมผิดพลาด ไปซื้อหุ้นเต็มพอร์ตวันที่แกนนำมอบตัว (ซื้อก่อนแกนนำมอบตัวด้วยครับ) แล้วเกิดการจราจลขึ้นมาในกรุงเทพ



ตอนมอบตัวหุ้นก็วิ่งดีนะครับ แต่หลังจากนั้น ตลาดหุ้นปิดครึ่งเช้า (สัปดาห์นี้ ตลาดปิดบ่าย3ครึ่งตลอด) พร่งนี้คงปิดจนถึงวันจันทร์หน้า แล้วเหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้น รวมถึงตลาดหุ้นโดนเผา โดนเฉพาะห้องสมุดมารวย เสียดายหนังสือครับ

ตอนนี้ พอร์ตผมไม่มีเงินสดเหลือแล้ว ตอนนี้ก็ลุ้นแค่ว่าเมื่อเปิดตลาดมา คงไม่ถล่มตลาดกันนะครับ โชคดีที่ว่าตอนก็เหตุการณ์หุ้นผมทำงานได้ดีคือ ยัง เขียวหมด หวังว่าคงเป้นแนวรับชั้นดีให้ผมนะครับ

ผมเขียนถึงวิกฤตไว้ โดยหวังว่าเพื่อสักวัน มีใครค้นหา วิกฤตการณ์ใดๆ ที่ส่งผลกับตลาดหุ้น เกิดความหดหู่ ท้อแท้ใจ เพื่อจะเจอบทความผมทิ้งไว้ว่าเกิดไรขึ้นบ้างในช่วงเวลานี้

สุดท้ายขอให้เชื่อว่า วัฎจักรเศรษฐกิจ มันมีขึ้นและลง โลกเราผ่าน สงครามโลก วิกฤตเศรษฐกิจ การก่อการร้าย และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ตลาดหุ้นไม่เคยมีการล่มสลาย ผมเชื่อว่า มันจะอยู่กับเราอีกนานจนกว่าจะไร้สิ้นซึ่ง ระบบเงินตรา หรือ ระบบทุนนิยม ครับ

ปลายทางอุโมงค์ยอมมีแสงสว่างเสมอครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

การลงทุนทางตรง การลงทุนทางอ้อม