การออมกับการลงทุน : เงินทุนเกิดมาจากไหน ภาคประชาชนสามัญ
ก่อนหน้าเราพูดถึงแหล่งที่มาของเงินทุนขององค์กร บริษัทต่างๆ ไปแล้ว บทความนี้ผมจะมาลองพูดเรื่องแหล่งเงินทุนแบบบุคคลทั่วไปบ้าง
เหมือนเดิมครับมาจาการสังเกตุของผมเอง อาจถูกบ้างผิดบ้าง ผมก็น้อมรับความคิดเห็นที่แตกต่างครับ
มาแบบแรกก่อน แหล่งที่มาของเงินทุนคือ พ่อแม่ให้ครับ พวกมีมรดกอยู่แล้ว ต้นทุนไม่มีเลย ขึ้นอยู่กับตัวท่านแล้วครับ ว่ามีความสามารถใช้ทุนนั้น ด้านการลงทุนให้งอกเงย หรือ ด้านการถลุงให้ชิบหายหมดไป พวกนี้เกิดมาน่าอิจฉามากครับ แต่ถ้าเลี้ยงกันไม่ดี สอนกันไม่ดี ก็คงเป็นภาระของพ่อแม่ครับ
ต่อมาคือเหมือนกันทางบริษัทหรือองกรค์ คือกู้ครับ แต่ส่วนใหญ่จะต่างกับทางองค์กรครับ
ในปัจจุบันมีธุรกิจมากมายเกี่ยวกับการกู้ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด กู้แบบใช้รถ สารพัดครับ การกู้แบบบุคคล ถ้าพวกมีเงินเดือน หลักทรัพย์ ก็อาจไปกู้ง่าย แต่อาจเสียดอกเบี้ยแพงกว่ากู้แบบธุรกิจครับ ตามแต่ละเงื่อนไขของธนาคาร
ส่วนกู้แบบแนวพื้นบ้านหน่อย ก็ อาจไปกู้นอกระบบ ดอกสูงลิ่ว แต่ก็จำเป็นต้องใช้ก็ต้องกู้ เสี่ยงกับการโดนทวงหนี้แบบนอกกฎหมาย ซึ่งเราก็เห็นตามข่าวบ่อยๆ ไปครับ
วิธีหาทุนในการกู้อีกแบบคือ ยืมพ่อแม่ อันนี้เป็นโชควาสนาของพวกพ่อรวย จึงสามารถหาทุนได้ง่าย
ส่วนอีกคือ ยืมญาติ วิธีนี้เป็นสิ่งที่ผมรังเกรียจมาก เป็นไปได้ ไม่อยากยุ่งเลย ไม่ว่าจะขอยืม หรือ ถูกขอยืม(ส่วนตัวนะครับ) ญาติบางคน บางครั้งไม่ให้มันก็มาด่าอีก ให้ก็ไม่มีคืน หรือ ให้แบบไม่มีดอก แล้วทำเสียน้ำใจกันไป หวังว่าญาติของท่านคงไม่เป็นแบบนี้นะครับ
สำคัญที่สุด ที่มาของเงินทุนแบบนี้ที่ผมอยากให้เป็นมากที่สุด และง่ายด้วย คือ เงินทุน จาก การออมนั้นเอง
เงินออมส่วนใหญ่จะมาจากเงินที่เหลือใช้ในชีวิตเรา หรือ อีกแบบก็การแบ่งเงินออกมาจากชีวิตซึ่งผมเคยพูดไปตอนเทคนิคการ ออมก่อนหน้าแล้ว
ถ้าเราสามารถเก็บสอนเรื่องทักษะการออมเงินให้ลูกหลาน หรือ ตัวเราเอง เราก็สามารถมีทุนที่ใช้ได้อย่างไม่มีต้นทุนแตกต่างกับการกู้เงิน
ทางเศรษศาสตร์มี สมการ บอกไว้ว่า
S = I คือการออม เท่ากับการลงทุน
เมื่อท่านเริ่มออมท่านกำลังจะกล่าวสู่นักลงทุนแล้วครับ อย่างน้อย ท่านก็ต้องเริ่มหาวิธีการออม เช่น เอาใส่ตุ่มฝังดิน กับ ฝากธนาคาร แน่นอนครับ ย่อมได้ผลที่แตกต่างกัน
มาถึงบรรทัดนี้ คิดว่าท่านน่าจะอยากออมเงินกันบ้างแล้วครับ เพื่อลงทุนกับ ความสุขสบายของท่านในอนาคตเอง
แค่นี้คงเห็นภาพได้นะครับว่าเงินทุนนั้น มาจากไหนบ้าง และเงินทุนแบบไหน มีต้นทุนบ้างครับ
ขอให้พลังการออมจะสำแดงผลกับท่าน
เหมือนเดิมครับมาจาการสังเกตุของผมเอง อาจถูกบ้างผิดบ้าง ผมก็น้อมรับความคิดเห็นที่แตกต่างครับ
มาแบบแรกก่อน แหล่งที่มาของเงินทุนคือ พ่อแม่ให้ครับ พวกมีมรดกอยู่แล้ว ต้นทุนไม่มีเลย ขึ้นอยู่กับตัวท่านแล้วครับ ว่ามีความสามารถใช้ทุนนั้น ด้านการลงทุนให้งอกเงย หรือ ด้านการถลุงให้ชิบหายหมดไป พวกนี้เกิดมาน่าอิจฉามากครับ แต่ถ้าเลี้ยงกันไม่ดี สอนกันไม่ดี ก็คงเป็นภาระของพ่อแม่ครับ
ต่อมาคือเหมือนกันทางบริษัทหรือองกรค์ คือกู้ครับ แต่ส่วนใหญ่จะต่างกับทางองค์กรครับ
ในปัจจุบันมีธุรกิจมากมายเกี่ยวกับการกู้ส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด กู้แบบใช้รถ สารพัดครับ การกู้แบบบุคคล ถ้าพวกมีเงินเดือน หลักทรัพย์ ก็อาจไปกู้ง่าย แต่อาจเสียดอกเบี้ยแพงกว่ากู้แบบธุรกิจครับ ตามแต่ละเงื่อนไขของธนาคาร
ส่วนกู้แบบแนวพื้นบ้านหน่อย ก็ อาจไปกู้นอกระบบ ดอกสูงลิ่ว แต่ก็จำเป็นต้องใช้ก็ต้องกู้ เสี่ยงกับการโดนทวงหนี้แบบนอกกฎหมาย ซึ่งเราก็เห็นตามข่าวบ่อยๆ ไปครับ
วิธีหาทุนในการกู้อีกแบบคือ ยืมพ่อแม่ อันนี้เป็นโชควาสนาของพวกพ่อรวย จึงสามารถหาทุนได้ง่าย
ส่วนอีกคือ ยืมญาติ วิธีนี้เป็นสิ่งที่ผมรังเกรียจมาก เป็นไปได้ ไม่อยากยุ่งเลย ไม่ว่าจะขอยืม หรือ ถูกขอยืม(ส่วนตัวนะครับ) ญาติบางคน บางครั้งไม่ให้มันก็มาด่าอีก ให้ก็ไม่มีคืน หรือ ให้แบบไม่มีดอก แล้วทำเสียน้ำใจกันไป หวังว่าญาติของท่านคงไม่เป็นแบบนี้นะครับ
สำคัญที่สุด ที่มาของเงินทุนแบบนี้ที่ผมอยากให้เป็นมากที่สุด และง่ายด้วย คือ เงินทุน จาก การออมนั้นเอง
เงินออมส่วนใหญ่จะมาจากเงินที่เหลือใช้ในชีวิตเรา หรือ อีกแบบก็การแบ่งเงินออกมาจากชีวิตซึ่งผมเคยพูดไปตอนเทคนิคการ ออมก่อนหน้าแล้ว
ถ้าเราสามารถเก็บสอนเรื่องทักษะการออมเงินให้ลูกหลาน หรือ ตัวเราเอง เราก็สามารถมีทุนที่ใช้ได้อย่างไม่มีต้นทุนแตกต่างกับการกู้เงิน
ทางเศรษศาสตร์มี สมการ บอกไว้ว่า
S = I คือการออม เท่ากับการลงทุน
เมื่อท่านเริ่มออมท่านกำลังจะกล่าวสู่นักลงทุนแล้วครับ อย่างน้อย ท่านก็ต้องเริ่มหาวิธีการออม เช่น เอาใส่ตุ่มฝังดิน กับ ฝากธนาคาร แน่นอนครับ ย่อมได้ผลที่แตกต่างกัน
มาถึงบรรทัดนี้ คิดว่าท่านน่าจะอยากออมเงินกันบ้างแล้วครับ เพื่อลงทุนกับ ความสุขสบายของท่านในอนาคตเอง
แค่นี้คงเห็นภาพได้นะครับว่าเงินทุนนั้น มาจากไหนบ้าง และเงินทุนแบบไหน มีต้นทุนบ้างครับ
ขอให้พลังการออมจะสำแดงผลกับท่าน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น