บันทีกการลงทุน 10/10/2554 ตอน น้ำท่วมกับการลงทุน

น้ำมารอบนี้ เราได้เห็นภาพหลายๆภาพจากข่าวสาร ตามโทรทัศน์ ได้เห็นผู้บริหารบ้านเมืองหลายท่าน หรือ องค์กร บริษัท แก้ไขปัญหาแล้ว ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ก็ขอพิจารณาดูอย่างมีสตินะครับ

แต่ที่ผมชอบมากที่สุดหรือจะเป็นปรากฏการณ์ใหม่คือ สังคมออนไลน์ บน Facebook ที่มีทั้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ช่วยกันแชร์ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร ภาพอธิบายความรู้ด้วยการ์ตูน (Infographic) ภาพถ่ายที่เก็บๆมา คลิปข่าว หรือ ถ้อยคำการให้กำลังใจกัน ของแต่ละคน

แม้อาจมีความเห็นเชิงแตกแยกบ้าง ด่ากันบ้าง เห็นแล้วไม่มีสาระ แต่ก็เป็นส่วนน้อย (ถ้าใครมีพวกนี้เป็นส่วนใหญ่ ผมแนะนำ ให้ไปหาเพื่อนกลุ่มใหม่ๆ ดีกว่าครับ) ไม่สามารถกลบสิ่งดีๆ จากสังคมของเราได้

กลับมาที่เรื่องตลาดหุ้นและบริษัทจดทะเบียนสักหน่อยครับ

เมื่อก่อนผมเคยทราบว่ามีโรงงาน บริษัท ตั้งอยู่ในอยุธยา มากขนาดนี้ ซึ่งบริษัทบ้างบริษัทที่ผมซื้อก็ตั้งอยู่ในเขตอยุธยาด้วย

ปัญหาก็คือ น้ำท่วมตอนนี้ ส่งผลให้หลายๆ บริษัทต้องหยุดงาน หรือขั้นหนักสุดคือ น้ำท่วมบริษัท เครื่องจักรที่ใช้ผลิตสินค้ามีอันต้องเสียหาย ซึ่งอาจใช้เวลาอีกพักใหญ่ ที่ต้องซ่อมแซม สรุปผลที่ได้คือ ต้องเสียเวลา เสียเงิน ที่เป็นต้นทุนน้ำท่วม ครั้งนี้ ซึ่งกระทบต่อรายได้ของบริษัท

ส่วนนี้คือ ปัญหาทางตรงที่ต้องกระทบต่อบริษัทที่อยู่ในเขตน้ำท่วมแน่นอน

ส่วนปัญหาจากการปิดโรงงาน อย่างน้อยส่งผลให้ลูกจ้างชั่วคราวอาจต้องไม่มีเงิน รายได้จากการทำงาน เป็นปัญหาทางอ้อมที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะที่น้ำยังท่วมอยู่

ซึ่งอันนี้เป็น ผลกระทบด้านไม่ดีของทางเศรษฐกิจ ที่ต้องรับกันไป

ส่วนพวกที่ได้รับผลกระทบด้านดี

ใครไปตลาด ใน Modern trade พวกน้ำดื่ม ไข่ อาหารแห้ง หมดไม่เหลือ คาดว่ารายได้คงพุ่งขึ้นอย่างเหวี่ยงตัวแน่นอน

อุปกรณ์ก่อสร้าง รอบนี้ คนแถวบ้านผม ก่ออิฐ ฉาบปูนกันน้ำ กันเต็มไปหมด คือน้ำมาระดับนั้น (บ้านผมคงจมแน่นอน) อย่างน้อยๆ ทราย ก็ขึ้นราคามาก (อันนี้ต้องขอบคุณ พี่เสกจาก SCC ที่แบ่งปันทรายราคาถูกมาให้ผม)

นอกนั้น ก็มองหลังน้ำลด ก็คงต้องมีการก่อสร้างขนาดใหญ่จากรัฐบาล หรือ การซื้อของเข้าบ้านอีกครั้งใหญ่ของประชาชน

กลับมาที่จุดสนใจของผมคือ ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งในวันที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ แตก หุ้นราคาลงมาระดับนึง รวมถึงบริษัทอื่นๆในอยุธยาด้วย แต่โดยรวมก็ยังเป็น บวกอยู่ บางทีผมก็คิดว่า พวกที่ซื้อนี้ อาจไม่ได้สนใจเศรษฐกิจพื้นฐานของประเทศในระยะสั้นหรือไม่ ถึงได้ซื้อกันอยู่ แถมเป็นต่างชาติด้วย

ทำให้ผมคิดเหมือนกันว่า ตลาดหุ้นมันสะท้อนประสิทธิภาพของเศรษฐกิจในระยะสั้นได้ดีแค่ไหน

ส่วนที่ผมพูดมาทั้งหมด อาจจะผิด หรือ ถูก คงต้องรอดูจาก งบการเงินไตรมาส4 ปีนี้ (กุมภาปีหน้าเลย)

ขอให้โชคดีกับการลงทุนครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin