วันหลังเลือกตั้งปี 2554

วันนี้เป็นวันที่ตลาดหุ้นไทยทำการปิดตัวไปด้วยดัชนี 1090.28 ซึ่งอาจไม่ใช่จุดสูงสุดในรอบเป็น 10 ปี ก็ตาม แต่สิ่งที่อยากให้จำไว้คือ วันนี้ ตลาดปรับตัวสูงขึ้นถึง 48.8 จุด และมีช่วงเวลาทำการ ทำถึง 50 จุด
ผมยอมรับว่า เพิ่งเคยเห็นการปรับตัวที่เยอะขนาดนี้ (แต่ถ้าเทียบเป้น % แล้ว 4.6%)
อีกสิ่งที่อยากให้จำไว้ได้เมื่อเวลาผ่านไปคือ ต่างชาติซื้อถึง หมื่นล้าน
มูลค่าการซื้อขาย มี 6หมื่นล้าน

ซึ่งทุกอย่างเป็นข่าวดีเกือบหมด
ไม่ว่า กรีซผ่านมาตรการรัดเข็มขัด และสภายุโรปจะให้กู้เพิ่ม
ตัวเลข USA ก็ดีขึ้น

นับว่าทุกอย่างเรียกว่าเป็นสิ่งที่ควรจดจำไว้ในประวัติศาสตร์การลงทุนเลย

ส่วนข้อคิดเตือนสตินักลงทุน
ใครที่ตกรถ ก็ขอให้จำไว้ว่า ไม่ใช่รถขบวนสุดท้าย สักวันเหตุการณ์เหล่านี้เกิดอีก
ส่วนใครที่ได้กำไรมากๆ ก็ขอให้จำไว้ว่า ไม่ควรหลงระเริงกับผลงานที่ได้จากตลาด
ส่วนใครที่จะตัดสินใจอะไรต่อไป ผมก้ขอใช้คำพูดของ วอร์เร็น บัตเฟต ว่า กล้าในช่วงที่คนกลัว และกลัวในช่วงคนอื่นกล้า ไว้เตือนสตินะครับ

ซึ่งสำหรับผมตอนนี้พื้นฐานเศรษฐกิจ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่มีแนวโน้มดีขึ้น (หลังจากเดือนที่แล้ว อะไรก็ดูแย่ไปหมด)

ซึ่งตามสถิติทั่วไป เมื่อมีการเลิกตั้งเสร็จแล้วส่วนใหญ่หุ้นจะปรับตัวขึ้น แต่คราวนี้ปรับตัวแรงมาก จนคิดว่าครั้งต่อๆ ไป การเลือกตั้งปี 2554 คงต้องมีการนำมาเป็นตัวอย่างเวลาวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ช่วงหลังการเลือกตั้งแน่นอน

บางครั้งหลายๆ คนอาจมองว่า ที่สุดคงต้องมีแสงสว่าง หลังจากเรามีปัญหาการเมืองภายในมาตลอด 5 ปี ครั้งนี้อาจจะทำให้อะไร มันเริ่มต้นใหม่ แม้หลายๆ คนอาจมีภาพที่ไม่ดีติดหัวอยู่เยอะ แต่ขอให้คิดว่า ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าไรเรากลัวไปเอง ส่วนสิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ เป้นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในประเทศได้ตัดสินใจแล้ว

ส่วนฝืมือของผู้มาบริหารประเทศจะดีแค่ไหน เวลาและประวัติศาสตร์ครับจะให้คำตอบแก่พวกท่านเอง

เมื่อ 1 ปีที่แล้วผมเคยพูดเรื่องแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ผมหวังว่าคราวนี้ผมคงได้เจอแสงสว่างพร้อมๆ กับคนในประเทศไทยสักที

หรือสุดท้าย วันนี้อาจเป็นอีกวัน ที่ Mr.Market แผลงฤทธิ์ปั่นหัวคนไทยได้อย่างสำเร็จก็ได้ครับ ของจริงมันต้องใช้ระยะเวลาพิสูจน์ครับ นักลงทุนทั้งหลายโปรดเตรียมการรับมือด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องหมาย NP ของตลาดหลักทรัพย์

StarfishX: สำหรับการดึง SET data

PPE vs Rev, Gross margin, New Margin